ยอดพระเกจิแห่งเมืองน้ำดำ..ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

ประวัติหลวงปู่โส ธมฺมิโก วัดป่าเครือวัลย์
********
หลวงปู่โส เกิดที่บ้านดอนหวาย ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นามเดิมของท่านชื่อ โสภา หัดประกอบ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เป็นบุตรของนายคาน นางทองมี หัดประกอบ มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ ๓ ประกอบด้วย
๑. นางทองมี หัดประกอบ (สกุลเดิม)
๒. นายสีดา หัดประกอบ
๓. นายโสภา หัดประกอบ (หลวงปู่โส ธมฺมิโก )
๔. นายสมคิด หัดประกอบ
๕. นางนาง หัดประกอบ (สกุลเดิม)
๖. นางบาง หัดประกอบ (สกุลเดิม)
เมื่อตอนเด็กๆ หลวงปู่ท่านเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพเรียบร้อย มีความกตัญญูกตเวที เป็นคนตรงไปตรงมา ช่วยพ่อแม่ทำงานและหาเลี้ยงพ่อแม่ตามวิสัยลูกที่ดีมีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ด้วยดีตลอดมา
ด้านการศึกษา จบการศึกษาภาคบังคับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในสมัยนั้นที่โรงเรียนวัดดอนหวาย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากจบการศึกษาภาคบังคับแล้ว พออายุ ๑๒ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ ได้เอาใจใส่ต่อภารกิจของสามเณรท่องสวดมนต์ ทำวัตร ศึกษาหลักสูตรนักธรรมปฏิบัติพระเถระ ด้วยเจตนาต้องการศึกษาพระธรรมคำสอนดำเนินรอยตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่บรรพชาเป็นสามเณรได้เพียง ๒ ปี ก็ต้องลาสึกขาบทออกมาเพื่อช่วยครอบครัวประกอบสัมมาอาชีพ ทำไร่ทำนาเนื่องจากโยมแม่ได้ถึงแก่กรรมจวบจนอายุ ๒๒ ปีด้วยความตั้งใจที่จะศึกษาหลักธรรมคำสอน และเจตนาอันแน่วแน่นั่นเองจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ณ วัดสว่างอารมณ์ ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีพระครูศีลสารโสภิต เป็นพระอุปฌาย์ พระอธิการหนู อาภาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเงิน ปญฺญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้จำพรรษา ณ วัดป่าแพงศรี อ.กมลาไสย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม –บาลี จนปี พ.ศ. ๒๕๐๖ หลวงปู่เดินทางไปจำพรรษา ณ วัดประชานิมิต ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้ศึกษาหลักธรรมคำสอน กับพระครูอดุลย์ เจ้าคณะอำเภอวิเชียรบุรี ในขณะนั้น ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ทางญาติโยมตลอดจนลูกศิษย์ลูกหาได้กราบนิมนต์ หลวงปู่ให้กลับมาจำพรรษา ที่วัดป่าเครือวัลย์ ที่บ้านเกิดและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสในปีต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ที่วัดป่าเครือวัลย์ ท่านก็เริ่มพัฒนาวัดโดยการก่อสร้างเสนาสนะบูรณะซ่อมแซมกุฏิ และอื่นๆ อีกมากมาย ญาติโยมทั้งหลายก็เริ่มมีความเลื่อมใสในตัวท่านมาก เพราะท่านเป็นพระที่สมณะสำรวมเคร่งในธรรมะและวินัยเป็นที่น่าเคารพมาก
การศึกษาวิชาอาคม หลวงปู่โส ท่านใฝ่เรียนใฝ่รู้ หมั่นศึกษาตำรับตำรา พระธรรมคำสอน ฝึกสมาธิภาวนาอยู่เป็นนิจมิได้ขาดนอกจากนั้นยังได้เรียนทางวิปัสสนากัมมัฎฐานกับพระอาจารย์อื่นๆ อีกหลายรูปด้วยกัน นอกจากนี้หลวงปู่ยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาอาคม กับครูอาจารย์หลายท่าน อาทิ
- หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด ว่ากันว่าตะกรุดโทน หลวงปู่โส นั้นประสบการณ์มากมายคนในพื้นที่ และลูกศิษย์ลูกหาต่างรู้ดี ว่าไม่เป็นสองรองใคร
- หลวงปู่ทับ เขมโก วัดป่าแพงศรี อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ทับนั้น หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับมอบหมายจากหลวงปู่ทับ ให้ดำเนินการจัดสร้าง ในปี ๒๕๑๒ ว่ากันว่าพุทธคุณสุดๆเรื่องแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม
- หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ซึ่งนอกจากได้ศึกษาอาคมจากหลวงปู่แล้วยังได้เรียนเขียนขอมอีกด้วย
- หลวงปู่เขียน ธมฺมรักขิโต วัดสำนักขุนเณร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร
- หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
- หลวงพ่อผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ จ.ขอนแก่น
- หลวงปู่อ่อน วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
- หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เทวดาเล่นดิน
ด้านวัตถุมงคล นั้นได้มีลูกศิษย์ลูกหามากราบขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หลายต่อหลายครั้งหลายต่อหลายคณะแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากหลวงปู่ แต่ก็มีหลายครั้งที่หลวงปู่เห็นความตั้งใจจริงของลูกศิษย์ลูกหา ที่มากราบขอจึงได้จัดทำให้ส่วนมากจะเป็นตะกรุดโทน ปลัดขิก สีผึ้ง ซึ่งเมื่อลูกศิษย์ได้นำติดตัวบูชาแล้วเกิดประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วน..โดยเฉพาะอย่างยิ่งตะกรุดโทนของหลวงปู่นั้นว่ากันว่าเรื่องเหนียวๆไม่เป็นสองรองใคร...ผมได้สอบถามลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่เสกปลักขิกจนดิ้นได้ พอไปถามหลวงปู่ถึงเรื่องดังกล่าวหลวงปู่ก็ได้แต่ยิ้ม พร้อมกับบอกว่า “ โฮ้..ปานนั้นบ้อ บ่ปานนั้นดอก ” (ขนาดนั้นหรือคงไม่ขนาดนั้นมั้ง) เมื่อปี ๒๕๕๔ หลวงปู่ได้ดำริให้สร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญหล่อเสมาและล็อกเก็ตขึ้นมา จำนวนสร้างอย่างละเป็นหมื่น แต่เป็นที่น่าแปลกใจยิ่งคือไม่มีหมุนเวียนให้เห็นเลยแม้แต่น้อยแม้ในพื้นที่เอง เรียกได้ว่าเก็บเงียบ..ผมเคยไปกราบหลวงปู่ครั้งหนึ่ง ครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้..สิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับผมก็คือ..พอไปถึงหลวงปู่นั่งอยู่ที่ศาลาหลังเล็ก..และพูดขึ้นว่า..” หัวตะมาฮอดบ้อ คือว่าสิมาหลายมื้อแล้ว..” (ทำไมเพิ่งมาล่ะ..ไหนว่าจะมาตั้งนานแล้ว) ผมถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินหลวงปู่พูดขึ้นมาเช่นนั้น..คือจริงๆแล้วผมได้ยินถึงชื่อเสียงของหลวงปู่จากญาติคนหนึ่งที่เล่าให้ฟังถึงปาฏิหาริย์ในองค์หลวงปู่ พร้อมกับบอกถ้ามีโอกาสให้แวะไปกราบลวงปู่สักครั้ง...ซึ่งผมก็บอกว่าจะไป..แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะติดภาระงานต่างๆ..จากคำพูดของหลวงปู่นั้นประหนึ่งว่า หลวงปู่รับรู้ล่วงหน้าถึงการมากราบหลวงปู่ของผม...
เร็วๆนี้เตรียมพบกับสุดยอดวัตถุมงคล รุ่นแรกของหลวงปู่ที่ขออนุญาตจัดสร้างถูกต้องเป็นลายลักษณ์อักษร และหลวงปู่อนุญาตอย่างเป็นทางการ....หลวงปู่โส ธมฺมิโก วัดป่าเครือวัลย์ อีกหนึ่งสุดยอดพระเกจิแห่งเมืองน้ำดำ ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ...ปัจจุบัน หลวงปู่สิริอายุ ๘๐ ปี ๕๖ พรรษาอบพลับพลาชัย รวบรวมเรียบเรียง
มีโอกาสอย่าลืมแวะไปกราบขอพรหลวงปู่นะครับ